วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

รายงานสถานที่ท่องเที่ยวที่สนใจ คือ  พระบรมธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่

1.ประวัติของพระบรมธาตุดอยสุเทพ
ประวัติความเป็นมาของดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่
           วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1929 ในสมัยพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์เม็งราย พระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ ที่ได้ทรงเก็บไว้สักการะบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่ ด้วยการทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคลเพื่อเสี่ยงทายสถานที่ประดิษฐาน พอช้างมงคลเดินมาถึงยอดดอยสุเทพ มันก็ร้องสามครั้ง พร้อมกับทำทักษิณาวัตรสามรอบ แล้วล้มลง พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้ขุดดินลึก 8 ศอก กว้าง 6 วา 3 ศอก หาแท่นหินใหญ่ 6 แท่น มาวางเป็นรูปหีบใหญ่ในหลุม แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุลงประดิษฐานไว้ จากนั้นถมด้วยหิน แล้วก่อพระเจดีย์สูง 5 วา ครอบบนนั้น ด้วยเหตุนี้จึงห้ามพุทธศาสนิกชนที่ไปนมัสการสวมรองเท้าใน บริเวณพระธาตุ และมิให้สตรีเข้าไปบริเวณนั้น ในปี พ.ศ. 2081 สมัยพระเมืองเกษเกล้า กษัตริย์องค์ที่ 12 ได้ทรงโปรดฯให้เสริมพระเจดีย์ให้สูงกว่าเดิม เป็นกว้าง 6 วา สูง 11 ศอก พร้อมทั้งให้ช่างนำทองคำทำเป็นรูปดอกบัวทองใส่บนยอดเจดีย์ และต่อมาเจ้าท้าวทรายคำ ราชโอรสได้ทรงให้ตีทองคำเป็นแผ่นติดที่พระบรมธาตุ
ในปี พ.ศ. 2100 พระมหาญาณมงคลโพธิ์ วัดอโศการาม เมืองลำพูนได้สร้างบันไดนาคหลวงทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้ประชาชนขึ้นไปสักการะได้สะดวกขึ้น และกระทั่งถึงสมัยครูบาศรีวิชัย ท่านได้สร้างถนนขึ้นไป โดยถนนที่สร้างนี้มีความยาวถึง 11.53 กิโลเมตร และตามตำนานได้กล่าวว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งได้เสด็จมายังดอยอุจฉุปัพพต เพื่อฉันภัตตาหาร พร้อมด้วยพระสาวก ณ ที่นี้มีย่าแสะแม่ลูกได้ตักบาตรถวายภัตตาหารแด่พระพุทธเจ้า   พระองค์จึงมอบพระเกศาธาตุให้ประดิษฐานไว้ที่ดอยแห่งนี้   ตามประวัติพระเจ้ากือนา กษัตริย์พระองค์ที่ ๘ ของ ราชวงศ์เชียงราย ได้พระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียร จากพระมหาเถรองค์หนึ่งที่ได้นำมาจากเมืองสุโขทัย ในชั้นต้น พระองค์ได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุนี้ไว้ที่วัดสวนดอก ต่อมาปรากฎว่า พระบรมสารีริกธาตุได้แสดงปาฏิหารย์ แยกออกเป็น ๒  องค์ ขนาดเท่าเดิม พระเจ้ากือนา จึงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวขึ้นบนหลังช้างทรง  และตั้งบารมีเสี่ยงช้าง ช้างทรงได้เดินขึ้นไปบนดอยสุเทพ ครั้นถึงบริเวณที่ตั้งวัดพระบรมธาตุ ฯ ปัจจุบัน ช้างทรงนั้นก็กระทืบเท้าส่งเสียงร้องไปทั่วบริเวณ แล้วล้มลง ณ ที่นั้น พระเจ้ากือนา จึงให้สร้างพระบรมสารีริกธาตุขึ้น ณ ที่นั้น เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๒๗ เป็นเจดีย์แบบเชียงแสนผสมลังกา
2.ความสำคัญของดอยสุเทพ
ดอยสุเทพไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ และพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ที่ประทับช่วงฤดูหนาวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทว่าดอยสูงแห่งนี้ยังสมบูรณ์ด้วย สภาพธรรมชาติทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่า โดยเฉพาะนก ประกอบกับการเดินทางเข้าถึงสะดวก เพราะเชิงดอยอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 6 กิโลเมตร และบนเส้นทางขึ้นสู่ยอดดอยประมาณ 16 กิโลเมตร ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้เที่ยวชมได้ตลอด

3.ที่ตั้งของพระธาตุดอยสุเทพ

    ที่ตั้งดอยสุเทพ
ที่ตั้ง พระบรมธาตุดอยสุเทพเป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งของเมืองเชียงใหม่ ประดิษฐานอยู่บนดอยสุเทพ สูงจากระดับน้ำทะเล ๑๐๐๐ เมตร ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเมือง ห่างจากตัวเมืองเก่าประมาณ ๑๐ กิโลเมตร สามารถมองเห็นจากตัวเมืองได้ชัดเจน และเมื่อขึ้นไปอยู่ที่พระบรมธาตุ ก็จะเห็นตัวเมืองเชียงใหม่ได้ทั้งหมด มีบันไดนาคเจ็ดเศียรทอดจากทางขึ้นไปถึงซุ้มประตูวัด จำนวน ๓๐๐ ขั้น ครูบาศรีวิชัยได้บอกบุญชักชวนชาวเหนือ ให้ช่วยกันสร้างถนนจากเชิงดอยไปจนถึงยอดดอย ณ ที่ตั้งพระบรมธาตุ

4.สิ่งสำคัญรอบองค์พระธาตุ

สิ่งสำคัญรอบองค์พระธาตุมี 5 ประการที่สามารถท่องเที่ยวชมความงามได้

1..ฉัตร ๔ มุม : ทำด้วยทองเหลือง สร้างโดยพระเจ้ากาวิละ กษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๔๘ มีความหมายว่า ฉัตรเป็นสัญลักษณ์ของความร่มเย็น ซึ่งแสดงให้ถึงความสงบร่มเย็นที่ได้รับอิทธิพลมาจากพระพุทธศาสนาที่แผ่ไปในทั้ง ๔ทิศ
2.สัตติบัญชร หรือ รั้วหอก : ที่อยู่รอบพระธาตุ ซึ่งมีที่มาจากเหตุการณ์แบ่งพระบรมสารีริกธาตุของโทณพราหมณ์ เมื่อภายหลังการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์แย่งพระบรมสารีริกธาตุของเมืองต่างๆ เพื่อนำไปไว้บูชาประจำเมือง โทณพราหมณ์จึงทำหน้าที่แบ่ง โดยให้ทหารถือหอกรอบล้อมพระบรมสารีริกธาตุไว้ เพื่อป้องกันการแย่งชิง จึงเป็นที่มาของรั้วหอกรอบพระ

3.หอยอ : ลักษณะเหมือนวิหารขนาดเล็ก ประจำอยู่ ๔ ด้าน ของพระบรมธาตุ ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ มีความหมายถึงการบูชาหรือสรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้า (ยอคุณ)บรมธาตุ

4.หอท้าวโลกบาล : ซึ่งเป็นหอยอดแหลมขนาดเล็ก ประจำอยู่ ๔ มุมของพระบรมธาตุ หมายถึง ที่ประดิษฐานของท้าวโลกบาลทั้ง ๔ ซึ่งเป็นเทพที่ปกปักรักษาสิ่งสำคัญต่างๆ ๔ ทิศ ทำหน้าที่รักษาพระบรมธาตุ ได้แก่
1.ท้าวกุเวร หรือท้าวเวสสุวรรณ มียักษ์เป็นบริวาร ทำหน้าที่เฝ้ารักษาทิศเหนือ
2.ท้าวธตรัฐ มีพวกคนธรรพ์เป็นบริวาร ทำหน้าที่รักษาทิศตะวันออก
3. ท้าววิรูฬปักข์ มีฝูงนาคเป็นบริวาร ทำหน้าที่รักษาด้านทิศตะวันตก
              4. ท้าววิรุฬหก มีอสูรเป็นบริวาร ทำหน้าที่รักษาด้านทิศใต้


5.ไหดอกบัว หรือ ปูรณะฆะฏะ (ปูรณะ แปลว่า เต็ม,สมบูรณ์, ฆฏะ แปลว่า หม้อ) แปลว่า หม้อที่แสดงถึงความสมบูรณ์ ซึ่งหมายถึงความเจริญรุ่งเรื่องของพระพุทธศาสนาในล้านนาไทย

5.สถานที่พักในดอยสุเทพ-ดอยปุย

พักในดอยสุเทพ-ดอยปุย

ที่พักแรม/บ้านพัก    มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว 3 แห่ง ได้แก่

1. บ้านพักดอยสุเทพ (เลยวัดพระธาตุดอยสุเทพ 300 เมตร ทางขวามือ) มีบ้านพักบริการทั้งหมด 6 หลัง  พักได้หลังละ 6 - 8 คน หลังละ 2,500 - 3,000 บาท และเรือนแถว 2 หลัง พักได้ตั้งแต่ 2 - 20 คน ราคา 400 - 2,500 บาท ท่านสามารถติดต่อรับกุญแจได้ที่ ร้านสวัสดิการ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการขอเช่าเต็นท์ สามารถติดต่อได้ที่ร้านสวัสดิการเช่นกัน โดยจะต้องกรอกแบบฟอร์มการขอเช่าเต็นท์ และวางบัตรประจำตัวไว้ พร้อมชำระเงินค่าเช่าเต็นท์หรือเครื่องนอน ซึ่งเต็นท์ที่ขอเช่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการกางเต็นท์ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว สามารถเข้าพักได้ทันที กรณีที่มีความจำเป็นเข้าที่พักช้ากว่าเวลา 20.00 น. กรุณาโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อยืนยันการเข้าพักที่ 053-295041
. 2.  บ้านพักโซนที่ 2 น้ำตกมณฑาธาร (เลยอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย 3 กิโลเมตร ทางขวามือ) มีบ้านพักบริการทั้งหมด 2 หลัง พักได้หลังละ 6 คน หลังละ 1,500 บาท
  3. บ้านค่ายโซนที่ 3 น้ำตกหมอกฟ้า (ทางไปอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เลยแยกตลาดแม่มาลัย ประมาณ 22 กิโลเมตร) มีบ้านทั้งหมด 4 หลัง พักได้หลังละ 15 คน หลังละ 1,500 บาท
4.สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์    อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว จำนวน 5 แห่ง ได้แก่
1. ลานกางเต็นท์ดอยปุย ห่างจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ ประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 250 คน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อ จัดจ้างรถโดยสาร จากบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพ เพื่อเดินทางไปลานกางเต็นท์ดอยปุยได้ ในช่วงเวลาระหว่าง 08.00 - 16.30 น. เส้นทางไปลานกางเต็นท์จะค่อนข้างแคบ และลาดชัน ประกอบกับ เส้นทางบริเวณจากด่านตรวจดอยปุย ไปลานกางเต็นท์ดอยปุย จะเป็นทางลูกรังประมาณ 1 กิโลเมตร   นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปกางเต็นท์บริเวณลานกางเต็นท์ดอยปุย ต้องเดินทางไปติดต่อก่อนเวลา 16.30 น. และต้องจัดเตรียมอาหารไปเอง
2. บ้านพักดอยสุเทพ เลยวัดพระธาตุดอยสุเทพ 300 เมตร สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 200 คน นักท่องเที่ยวสามารถสั่งอาหารจากร้านสวัสดิการของอุทยานฯ ได้ หรือสำรองอาหารล่วงหน้า ได้ที่ 053-295041

3. น้ำตกมณฑาธาร อยู่ระหว่างเส้นทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ ห่างจากอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ประมาณ 3 กิโลเมตร จะพบกับด่านเก็บค่าธรรมเนียม และเดินทางเข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 150 คน
. น้ำตกหมอกฟ้า ท้องที่อำเภอแม่แตง ทางไปอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 150 คน
5. น้ำตกแม่สา ท้องที่อำเภอแม่ริม สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 50 คน มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ควรจะไปถึงก่อนเวลา 16.30 น.
6.ค่ายเยาวชน มีค่ายพักเยาวชน จำนวน 4 หลัง ให้บริการบริเวณน้ำตกหมอกฟ้า พักได้หลังละ 15 คน หลังละ 1,500 บาท สามารถสำรองที่พักได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ถ.ห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-210244 หรือ e-mail / msn : doisuthep_pui@hotmai.com
ที่จอดรถ มีที่จอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ดังนี้
1.บริเวณน้ำตกห้วยแก้ว สามารถรองรับรถได้ประมาณ 30 คัน
2. บริเวณน้ำตกมณฑาธาร สามารถรองรับรถได้ประมาณ 50 คัน
3. บริเวณบ้านพักดอยสุเทพ (เลยวัดพระธาตุดอยสุเทพ 300 เมตร) สามารถรองรับรถได้ประมาณ 40 คัน
4. บริเวณลานกางเต็นท์ดอยปุย สามารถรองรับรถได้ประมาณ 50 คัน
5. บริเวณน้ำตกหมอกฟ้า สามารถรองรับรถได้ประมาณ 30 คัน
6. บริเวณน้ำตกแม่สา สามารถรองรับรถได้ประมาณ 100 คัน
7. บริเวณน้ำตกตาดหมอก สามารถรองรับรถได้ประมาณ 10 คัน

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว    มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ ซึ่งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจะเปิดให้บริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ นอกจากนี้ยังมีบริการห้องสมุด และฉายสไลด์แก่ผู้ที่สนใจอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ตามศูนย์บริการที่ได้จัดไว้ จำนวน 4 ศูนย์ ได้แก่
1ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (น้ำตกมณฑาธาร)
2. ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (น้ำตกแม่สา)

6.สถานที่ท่องเที่ยว
1.น้ำตกมณฑาธาร ท่านสามารถนำรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนตัว หรือรถมินิบัส เข้าไปบริเวณน้ำตกมณฑาธารได้ ซึ่งน้ำตกมณฑาธาร จะอยู่ห่างจากอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวา แวะชำระค่าธรรมเนียมเข้าชมน้ำตก ก่อนเดินทางอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกมณฑาธาร
2. วัดพระธาตุดอยสุเทพ ท่านสามารถนำรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนตัว หรือรถบัส ไปจอดบริเวณลานจอดรถของวัดพระธาตุดอยสุเทพ หรือจะเช่า - เหมา รถยนต์โดยสาร บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย / สวนสัตว์เชียงใหม่
3. บ้านพักอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จะอยู่ห่างจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ ประมาณ 300 เมตร ทางขวามือ รถบัส สามารถเข้าถึงบ้านพักอุทยานแห่งชาติได้
4.พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ อยู่ห่างจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ ประมาณ 4 กิโลเมตร รถบัสไม่สามารถเข้าถึงได้ หากท่านไม่ได้นำรถมาเอง ต้องเช่า-เหมารถจากบริเวณหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งรถจะบริการนำเที่ยวพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ยอดดอยปุย และบ้านม้งดอยปุยเป็นต้น

7.แหล่งท่องเที่ยวของดอยสุเทพ :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม
1.น้ำตกห้วยแก้ว เป็นน้ำตกเล็กๆ สูงประมาณ 10 เมตร เกิดจากลำน้ำห้วยแก้ว อยู่บริเวณเชิงดอยใกล้ทางขึ้นดอยสุเทพ เหนือน้ำตกห้วยแก้วขึ้นไปเล็กน้อย จะเป็น วังบัวบานเป็นสถานที่ที่กล่าวถึงตำนานรักอันอมตะที่ลือชื่อของสาวเหนือ และผาเงิบ ซึ่งอยู่เหนือวังบัวบานประมาณ 100 เมตร ใช้เป็นสถานที่พักผ่อน บริเวณเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
2.น้ำตกมณฑาธาร น้ำตกมณฑาธารหรือน้ำตกสันป่ายาง เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในเขตอุทยานฯ สูงกว่าระดับน้ำทะเล 730 เมตร มีทั้งหมด 9 ชั้น โดยมีน้ำตกไทรย้อย เป็นน้ำตกชั้นสูงสุด ที่ไหลมาจากห้วย
3.น้ำตกแม่สา เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีน้ำไหลตลอดปี มีทั้งหมด 10 ชั้นแต่ละชั้นห่างกันประมาณ 100-500 เมตร โดยเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปตามถนนสายแม่ริม-สะเมิง ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร น้ำตกแม่สา เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ทั่วบริเวณ
บริเวณน้ำตกแม่สา ไม่มีบ้านพัก แต่มีสถานที่กางเต็นท์ และมีเต็นท์ให้เช่า ท่านสามารถติดต่อได้ที่ 053-229731 ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 50 คน
                แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงกับน้ำตกแม่สา ส่วนมากเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเอกชน ซึ่งมีทั้ง ฟาร์มผีเสื้อ ฟาร์มงู ฟาร์มสุนัข โรงเรียนลิง กิจกรรมขี่ม้า การเล่นบันจี้จั๊ม การขี่รถบักจี้ ออฟโรด หรือเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์สิริกิติ์ ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกแม่สาประมาณ 5 กิโลเมตร
น้ำตกตาดหมอก เป็นน้ำตกขนาดกลาง เกิดจากลำห้วยแม่แรม อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่ริม ประมาณ 5 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายแม่ริม-สะเมิง แล้วแยกไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตร
การเดินทางไปน้ำตกตาดหมอก ต้องเดินทางโดยรถส่วนตัวเท่านั้น เนื่องจากรถบัสไม่สามารถเข้าถึง และไม่มีรถยนต์โดยสารวิ่งผ่าน
น้ำตกหมอกฟ้า เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งของอุทยานฯ มีน้ำไหลตลอดปี ตั้งอยู่ในเขต อ.แม่แตง โดยเดินทางไปตามเส้นทางสายเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107) ถึงทางแยกบ้านแม่มาลัย อ.แม่แตง เลี้ยวซ้ายตามถนนสายแม่มาลัย-ปาย (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1095) รวมระยะทางประมาณ 58 กิโลเมตร ซึ่งการเดินทางไปน้ำตกหมอกฟ้า หากต้องการขึ้นรถโดยสารประจำทาง สามารถขึ้นได้ที่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ (อาเขต) เพื่อขึ้นรถสายเชียงใหม่ - ปาย แล้วลงรถตรงปากทางเข้าน้ำตกหมอกฟ้า แล้วต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร หรือหากนำรถไปเองก็สามารถนำไปได้ ยกเว้นรถบัส เนื่องจาก ระยะทางแคบและลาดชัน

ยอดดอยปุย ยอดดอยปุย สูง 1,658 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดสูงสุดของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บนยอดดอยปกคลุมด้วยป่าสนเขาผืนใหญ่ และเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง ดอยสุเทพและดอยปุยเป็นถิ่นอาศัยของนกมากกว่า 300 ชนิด เช่น ไก่ฟ้าหลังขาว นกกางเขนน้ำหลังดำ นกศิวะปีกสีฟ้า ฯลฯ ในช่วงฤดูหนาวยังมีนกอพยพบินย้ายถิ่นเข้ามาอาศัยอีกเป็นจำนวนมาก หลายชนิดเป็นนกหายาก โดยเฉพาะนกเขน นกจับแมลงสีคราม นกเดินดงอกลาย นกปีกแพรสีม่วง ฯลฯ สำหรับจุดดูนกที่น่าสนใจจุดอื่นๆ เช่น บริเวณบ้านพักดอยสุเทพ ตามเส้นทางไปน้ำตกมณฑาธาร เส้นทางไปห้วยคอกม้า และบริเวณสันกู่ใกล้กับยอดดอยปุย มีสถานที่สำหรับกางเต็นท์ ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 250 คน ซึ่งห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ประมาณ 7 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างแคบและลาดชัน สำหรับผู้ที่ไม่ชินเส้นทาง ควรเดินทางไปถึงก่อนเวลา 17.00 น. เพื่อความสะดวกและปลอดภัย

8.ท่องเที่ยว :: ด้านวัฒนธรรมและประเพณี
1.วัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ของนครเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1927 มีบันไดนาคทอดยาวขึ้นไปสู่วัด 306 ขั้น ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจดีย์ทรงมอญ ที่ใต้ฐานพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรจุอยู่ วัดพระธาตุดอยสุเทพมีชื่อเต็มว่า วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพวรวิหารซึ่งจัดได้ว่าเป็นปูชนียสถาน ที่แสดงออกถึงศิลปกรรมล้านนาไทยที่สำคัญคู่เมืองเชียงใหม่
2.อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่บุกเบิกสร้างถนนขึ้นไปบนดอยสุเทพ เมื่อปี พ.ศ.2477 พระครูบาศรีวิชัย ขณะที่จำพรรษาอยู่ที่วัดศรีโสดา เริ่มชักชวนประชาชนสร้างทาง จากเชิงดอยถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ รวมระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร โดยใช้เวลาสร้างประมาณ 6 เดือน ต่อมา ชาวเชียงใหม่จึงได้สร้าง อนุสาวรีย์พระครูบาศรีวิชัย ไว้เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อสักการบูชาสืบไป


9.แหล่งท่องเที่ยวด้านศึกษาธรรมชาติ
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
  อุทยานดอยสุเทพ-ปุย มีเส้นทางเดินป่า และเส้นทางขับรถ เพื่อใช้ในการศึกษา และชื่นชมความหมาย
- เส้นทางเดินป่าสายศูนย์เกษตรภาคเหนือ-ผาลาด-วัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งจัดได้ว่า เป็นเส้นทางขึ้นดอยสุเทพ สายประวัติศาสตร์ ที่ชาวเชียงใหม่สมัยก่อนใช้เดินทาง เพื่อขึ้นนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ ในช่วงเทศกาลไว้พระธาตุ เพราะถือว่า จะได้บุญกุศลมากกว่าขึ้นนมัสการโดยรถยนต์ เป็นต้น
- เส้นทางเดินป่าสายน้ำตกมณฑาธาร-ถนนศรีวิชัยตอนบน-ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เป็นเส้นทางเดินเท้าเพื่อชมสภาพป่าดิบชื้นและป่าดิบแล้ง (ป่ายางปาย) และเพื่อชมนกป่าที่สำคัญ
- เส้นทางเดินป่าบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ-น้ำตกไทรย้อย เพื่อชมสภาพป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น
- เส้นทางผาดำ-ห้วยคอกม้า บริเวณหลังพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เป็นเส้นทางเดินเท้าเพื่อศึกษาข้อมูล ทางด้านนิเวศวิทยาป่าดิบเขา และการจัดการต้นน้ำ
- เส้นทางเครือข่ายคมนาคมเชื่อมระหว่างหมู่บ้านชาวเขาต่างๆ เพื่อการท่องเที่ยวโดยรถยนต์ เพื่อชื่นชมธรรมชาติของพื้นที่ ในใจกลางของอุทยานแห่งชาติ เช่น
1.เส้นสำหรับจักรยานเสือภูเขา ช่วงพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์-ยอดดอยปุย
2. เส้นทางดอยปุย-ขุนช่างเคี่ยน-แม่สาใหม่
3. เส้นทางห้วยตึงเฒ่า-ขุนช่างเคี่ยน-แม่สาใหม่
4. เส้นทางแม่สาใหม่-ขุนแม่ลวด-ขุนแม่ไน



                                                                       
                                                                         นางสาวดาริกา   สองสี  511380008
                                                                          นางสาวสุพัตรา    มวยดี  511380009
                                                                         นางสาวสุวรรณา    จันทร์ขจร  511383001

วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

คำถามประจำบทที่ 1
1.               จงอธิบายความหมายของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ตอบ    อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หมายถึง การประกอบกิจกรรมด้วยการนำปัจจัยการผลิตต่างๆ มาผลิตบริการอย่างใดอย่างหนึ่งด้านการท่องเที่ยว ที่ก่อให้เกิดความสะดวกสบายหรือความพึงพอใจ และขายบริการด้านการท่องเที่ยวนั้นให้แก่ผู้เยี่ยมเยือน
2.             การเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวมีเกณฑ์ใดเป็นตัวกำหนด  จงอธิบายและยกตัวอย่างการเดินทางที่เป็นการท่องเที่ยวประกอบ
       ตอบ   มีวัตถุประสงค์ที่จะเดินทางไป และสิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว ยกตัวอย่าง
การท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม เป็นการท่องเที่ยวเพื่อต้องการศึกษาวัฒนธรรมของประเทศหรือสถานที่ที่ตนเองไปเยี่ยมเยือน เพราะวัฒนธรรมเหล่านั้นมีความแตกต่างไปจากวัฒนธรรมของตนเอง  ซึ่งโดยส่วนมากมักจะเป็นสิ่งที่จับต้องได้ มองเห็น เป็นวัตถุหรือเป็นการแสดง เป็นต้น เช่น  ชมตลาดน้ำ  ชมการรำไทย มวยไทย การชมวัด ชมวัง อุทยานประวัติศาสตร์

3.              ผู้มาเยี่ยมเยือนมีกี่ประเภท อะไรบ้าง  จงอธิบาย
ตอบ   มี  2  ประเภท  ได้แก่
1.นักท่องเที่ยว (Tourist) หมายถึง ผู้ที่มาเยือนชั่วคราว ซึ่งพักอยู่ ณ สถานที่ที่ไปเยือนอย่างน้อย 24 ชั่วโมง และมีการพักค้างคืนอย่างน้อย 1 คืน แต่ไม่เกิน 1 ปี ได้แก่
     -ผู้ที่ไม่มีถิ่นพำนักอยู่ในสถานที่ที่ไปเยือน
     -ผู้ที่มีสัญชาติของประเทศนั้นหรือเดิมเป็นคนในถิ่นนั้น แต่ปัจจุบันไม่ได้มีถิ่นพำนักในสถานที่ที่ไปเยือนแล้ว
     -ผู้ที่เป็นลูกเรือ ซึ่งไม่มีถิ่นพำนัก ณ สถานที่ที่ไปเยือน และมีการค้างคืน ณ สถานที่ที่ไปเยือน
             2.นักทัศนาจร (Excursionist) คือผู้มาเยือน ซึ่งพักอยู่ ณ สถานที่นั้นน้อย 24     ชั่วโมง   ได้แก่
                  -ผู้โดยสารเรือสำราญหรือเรือเดินสมุทร ซึ่งมาแวะพักชั่วคราว ไม่พักค้างคืน
                  -ผู้ที่มาเยือนและจากสถานที่นั้นภายในวันเดียว (same-day visitor

4.              จงอธิบายวัตถุประสงค์ของการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวมาให้เข้าใจ
  ตอบ   แบ่งได้เป็น 3 ประเภท
1.การเดินทางเพื่อความเพลิดเพลินสนุกสนานและพักผ่อน   เป็นการเดินทางที่นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเพื่อความสนุกสนานและเพลิดเพลิน
2.การเดินทางเพื่อธุรกิจ เป็นการเดินทางที่ควบคู่ไปกับการทำงาน แต่มิใช่เพื่อประกอบอาชีพ
3. การเดินทางเพื่อวัตถุประสงค์อื่น อาจเรียกได้ว่าเป็นการเดินทางด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะ  และสลับซับซ้อนการไปพักผ่อนหรือประชุม ยกตัวอย่างเช่น
การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ  เพราะเราอยากไปดำน้ำดูปะการัง  เราก็ต้องไปเที่ยวทะเล
5.              การท่องเที่ยวที่แบ่งตามสากลมีกี่ประเภท  อะไรบ้าง
ตอบ  แบ่งตามสากล  ได้แก่
        1.การท่องเที่ยวภายในประเทศ (Domestic Tourism)
       2.การท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ (Inbound Tourism)
              3.การท่องเที่ยวนอกประเทศ (Outbound Tourism
       6.      จงอธิบายความสำคัญของการท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจ
             ตอบ  ความสำคัญของการท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจ  ทำให้เป็นแหล่งที่มาของเงินตราต่างประเทศ  ช่วยลด   ปัญหาการขาดดุลการชำระเงินระหว่างประเทศ  ช่วยสร้างอาชีพและการจ้างงาน ช่วยให้เกิดการกระจายรายได้ ช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลิตทางเศรษฐกิจ

คำถามประจำบทที่ 2
1.              ท่านคิดว่าการเปิดสปาในเมืองบาธขึ้นมาใหม่จะประสบความสำเร็จแค่ไหนและสปาอื่นๆ จะกลับมามีชีวิตใหม่ได้หรือไม่ในอังกฤษอธิบายว่าทำไมสปาในอังกฤษไม่เป็นที่นิยมขณะที่ยุโรปเป็นที่นิยม
ตอบ    สปาในเมืองบาธจะกลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้งและจะต้องเจริญรุ่งเรืองมากที่สุด  สาเหตุที่ทำให้สปาในอังกฤษไม่เป็นที่นิยมเพราะเมื่อก่อนเมืองบาธเป็นเมืองแห่งสปาและน้ำแร่มากมาย ทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวประเภทสปา ที่เป็นที่นิยมมาถึงปัจจุบัน  แต่การเดินทางไปบำบัดรักษาโรคด้วยน้ำแร่กลายมาเป็นสถานภาพทางสังคมอย่างรวดเร็วทำให้บรรดาสถานบำบัดเปลี่ยนโฉมมาเป็นสถานรักษาสุขภาพมาเป็นสถานที่เพื่อความเพลิดเพลินของเมืองคนชั้นสูงและกลายมาเป็นเมืองแห่งแฟชั่นของคนร่ำรวยทำให้ยุคเฟื่องฟูของน้ำแร่ในอังกฤษสิ้นสุดลง  จึงทำให้สปาในอังกฤษไม่เป็นที่นิยมเท่ากับในยุโรป
2.              ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวหลายอย่างของผู้ประกอบการ ตามความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป  และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป  จงอภิปรายว่าการเปลี่ยนแปลงอะไรที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่จะสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน
ตอบ การตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวมีความพึงพอใจ  รวมถึงการสร้างจุดเด่นหรือเอกลักษณ์ให้กับตัวเอง  เพื่อสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้กับนักท่องเที่ยว  เพราะปัจจุบันมีการแข่งขันกันอย่างมากมายถ้าเราไม่มีจุดเด่นก็จะทำให้ไม่มีสิ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้
3.              ทำไมประเทศอังกฤษจึงเป็นผู้บุกเบิกที่สำคัญในด้านการท่องเที่ยว
 ตอบ  เพราะประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่มีอาณาจักรมากมาย  ส่งผลให้อังกฤษเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย  รวมถึงประเทศอังกฤษยังเป็นประเทศที่มีคนร่ำรวยมาก การค้าขายกับต่างประเทศมีมากขึ้น  และที่สำคัญคนอังกฤษชอบส่งลูกหลานไปเรียนที่ต่างประเทศกับอาจารย์ผู้สอนประจำตัว เป็นการเดินทางที่เรียกว่า  Grand Tour   จึงทำให้ประเทศอังกฤษเป็นผู้บึกเบิกที่สำคัญในการท่องเที่ยว

คำถามประจำบทที่   4

1.            จงอธิความสำคัญของการท่องเที่ยวที่มีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ตอบ แหล่งท่องเที่ยวจัดเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและยังช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในประเทศ  รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทรัพยากรทางการท่องเที่ยว  และจุดหมายปลายทาง  และสิ่งที่ดึงดูดใจ

2.              Tourism  Resources  Destination และTourism  Attraction หมายถึงอะไร
ตอบ    1. ทรัพยากรทางการท่องเที่ยว Tourism  Resources  คือ  สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น  ซึ่งมนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ
            2.จุดหมายปลายทาง   Destination  คือ  สถานที่ที่ใดที่หนึ่ง  อาจเฉพาะเจาะจงหรืออาจเป็นสถานที่ทั่วไป  หรืออาจหลายสถานที่
            3.สิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว Tourism  Attraction คือ สถานที่ที่มีศักยภาพในการดึงดูดให้คนเดินทางเข้าไปเยี่ยมชม
               
3.                  ให้นักศึกษายกตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยวในภูมิลำเนาของนักศึกษา  พร้อมอธิบายถึงคุณสมบัติที่ดีของ แหล่ง ท่องเที่ยว  ( 3As) นั้นมาให้เข้าใจ
ตอบ  วัดพระธาตุเมืองนคร  เป็นสถานที่ขึ้นชื่อมากที่สุดของนครศรีธรรมราช  เป็นวัดที่           เก่าแก่มาก มี  ประติมากรรมสวยงามหลายอย่างที่น่าสนใจ รวมถึงมียอดพระธาตุเป็นทองคำแท้  เมื่อเข้าไปในวัดมีไกด์พาชมวัด พร้อมการให้ความรู้  และมีรถในการนั่งชมวัดด้วย

4.              แหล่งท่องเที่ยวที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้กำหนดไว้  สำหรับในกรณีของประเทศไทย มีกี่ประเภท  อะไรบ้าง
ตอบ  มี 3 ประเภท  ได้แก่
ü แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ
ü แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น
ü แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นศิลปวัฒนธรรม  ประเพณี  และกิจกรรมของผู้คนในท้องถิ่น

5.              จงยกตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นศิลปวัฒนธรรม  ประเพณี  และกิจกรรมของภาคต่างๆในประเทศไทย  อย่างน้อยภาคละ 3 แหล่งท่องเที่ยว
ตอบ   ภาคใต้  ได้แก่  เทศกาลงานสารทเดือนสิบ  วัดพระธาตุ  หนังตะลุงกับมโนราห์
         ภาคกลาง  ได้แก่ ลอยกระทง  สวนสนุก  วัดพระแก้ว
          ภาคเหนือ  ได้แก่  ดอยสุเทพ    วิถีชีวิตของชุมชนชาวเขา   การลอยโคม
         ภาคอีสาน  ได้แก่   งานบุญบั้งไฟ   แห่นางแมว  ผีตาโขน